ศาล หลักมืองเดิมเป็นเสาหลักยาวประมาณ 1 เมตรเศษปลายเสา แกะสลักเป็นรูปดอกบัวตั้งอยู่บริเวณกำแพง เมืองเก่า ต่อมาประมาณ พ.ศ. 2453ทางราชการเห็นว่าศาลหลักเมือง เดิมชำรุดมากจึงได้ย้ายหลักเมืองไป ประดิษฐานที่ตึกแดงในโรงเรียนสตรีประจำจังหวัด คือ โรงเรียนศรีนครนายก ภายหลังได้ย้ายมาสร้างใหม่ ริมแม่น้ำนครนายก ภายในสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติ รัชกาลที่ 9 โดยสร้างเป็นศาลาจัตุรมุขเพื่อความสง่างาม และเป็นมงคลคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดนครนายกจนทุกวันนี
ประดิษฐาน อยู่ ณ วัดบุญนาครักขิตาราม ( วัดต่ำ ) ตำบลนครนายก อำเภอเมืองนครนายก เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวจังหวัดนครนายก สันนิษฐานว่าเป็น พระพุทธรูปสมัยพระร่วง ขุดพบเมื่อ พ.ศ.2495 ณ บริเวณโรงกลั่นสุราจังหวัด นครนายก ซึ่งตั้งอยู่ใกล้วัดนางหงษ์ตำบลท่าช้างอำเภอเมืองนครนายก โดยขุดพบแต่เศียรไม่มีองค์ และได้นำไปไว้ที่โรงเรียนนายกพิทยา(ปัจจุบันยุบไปแล้ว) ต่อมาได้นำไปประดิษฐานไว้ที่วัดบุญนาครักขิตาราม ต่อมาในปีพ.ศ.2511 นางผล รอดอุไรมีศรัทธาสร้างองค์พระ และอุโบสถถวายจึงได้ถวายพระนามพระพุทธรูปองค์นี้ว่า“ หลวงพ่อเศียรนคร ” ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ประดิษฐาน อยู่ในพระวิหารบนยอดเขา ณ วัดคีรีวัน ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี อยู่บนถนนสายนครนายก – ท่าด่านอำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก ห่างจากตัวเมืองประมาณ 9 กิโลเมตร พระแก้วองค์จำลองนี้มีเนื้อเป็นเรซิ่น ขนาดหน้าตักกว้าง 49 นิ้ว สูง 32.9 นิ้ว หนัก 1 ตัน และมีเครื่องทรงครบทั้ง 3 ฤดู ประดับตกแต่งด้วยเพชรแท้ 7 กะรัตพลอยแท้ 2,000 กว่าเม็ดและทับทิมอีกนับไม่ถ้วน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร .0-2936-3660, 0-2936-3661
ตั้ง อยู่บนชะง่อนหินเขาชะโงกตำบลพรหมณี อำเภอเมืองนครนายก เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์มีประชาชนเคารพนับถือ มาก ตามประวัติท่านเป็นนายด่านเมืองนครนายกสมัยกรุงศรีอยุธยา วีรกรรมของท่านคือ การต่อต้านเขมรที่แปรพักตร์ เมื่อปี พ.ศ.2130 ในรัชสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชขณะที่ไทยติดพันศึกกับพม่าเขมรได้เข้ามา รุกรานและ กวาดต้อนผู้คนแถบปราจีนบุรีเพื่อนำกลับเขมร โดยได้ยึดเมืองปราจีนบุรี และเมืองนครนายก ขุนด่านได้รวบรวมคนที่ เมืองนครนายกไปตั้งหลัก ที่เขาชะโงกแล้วยกกำลังเข้าขับไล่เขมร ออกจากนครนายก จนเขมรแตกพ่ายไป ความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้า พ่อขุนด่านยังมีเรื่องเล่าอีกว่าในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นนำกำลังพลไปตั้งหลัก ที่เขาชะโงกและได้รื้อศาลเจ้าพ่อขุนด่านเจ้าพ่อขุนด่านได้ทรงแสดงอภินิหารทำ ให้ทหารญี่ปุ่นล้มตายเป็น จำนวนมาก
เป็น น้ำตกในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ตั้งอยู่ที่ตำบลสาริกา อำเภอเมืองนครนายกห่างจากตัวเมืองไปทาง ทิศตะวันออกเฉียงเหนือทางหลวงหมายเลข 3049 เป็นระยะทาง 12 กิโลเมตร แล้วแยกซ้ายเข้าทางหลวง 3050 อีก 3 กิโลเมตร ทางลาดยางตลอดสายเป็นน้ำตกขนาดใหญ่สายน้ำไหลตกจากหน้าผาเป็นทอด ๆ ถึง 9 ชั้น ผาที่สูงที่สุดประมาณ 200 เมตร แต่ละชั้นมีอ่างรับน้ำ มีน้ำมากในฤดู ฝน ส่วนฤดูแล้งน้ำแห้ง บริเวณด้านล่างของ น้ำตกมีบริการห้องอาบน้ำและห้อง สุขาแยกชาย-หญิง มีร้านอาหาร มีร้านขายของที่ระลึก หากขับรถไปเอง จะมีป้ายบอกทางตลอด การเข้าน้ำตกสาริกาจะต้องเสียค่าบำรุงผู้ใหญ่คนละ 40 บาท/คน เด็กคนละ 20 บาท/คน นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ผู้ใหญ่คนละ 400 บาท/คน เด็กคนละ 200 บาท/คน
ตั้ง อยู่ที่ตำบลหินตั้ง ห่างจากตัวเมืองประมาณ 20 กิโลเมตร เดินทางไปตามทางหลวงหมายเลข 3049 น้ำตกนางรองอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นน้ำตกขนาดกลางที่ไหลลดหลั่นลงมาเป็นชั้นๆ ไม่สูงนัก มีความสวยงามเป็นธรรมชาติ ในช่วงฤดูฝนกระแสน้ำจากน้ำตกนางรองจะไหลเชี่ยวมาก ควรระมัดระวังในการลงเล่นน้ำ การจัดบริเวณภายในเป็นระเบียบสะอาดตา และมีบ้านพักบริการ ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ องค์บริหารส่วนจังหวัดนครนายก อบจ. โทร. 0-3730-7100 แฟกซ์ 0-3730-7140
เป็น อุทยานที่ได้รับการตกแต่งด้วยพันธุ์ไม้ประดับนานาพันธุ์ เป็นแหล่งที่สวยงามแห่งหนึ่งในประเทศไทย อยู่ห่างจากกรุงเทพฯประมาณ 120 กิโลเมตร หรือห่างจากตัวจังหวัดนครนายกประมาณ 16 กิโลเมตร มวลพฤกษชาติ พันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับภายในอุทยานแห่งนี้จะออกดอกสะพรั่งตัดกับท้องฟ้าสี น้ำเงิน ทำให้เกิด ทัศนียภาพงดงามทุกฤดูกาลโดยเฉพาะในฤดูฝน นอกจากนั้น ยังมีพันธุ์ไม้ นานาชนิด อุทยานวังตะไคร้จึงเป็น ดินแดนที่มีเสน่ห์แห่งความงามตามธรรมชาติในเนื้อที่ 1,500 ไร่มีถนนให้รถยนต์วิ่งเข้าชมในบริเวณได้ เปิดรับนักท่องเที่ยวทั่วไปทั้งประเภทเช้าไปเย็นกลับ และประเภทค้างแรม
เขื่อน ขุนด่านปราการชล อันเนื่องมาจากพระราชดำริตั้งอยู่ที่บ้านท่าด่าน ตำบลหินตั้ง อำเภอเมือง จังหวัดนครนายก สร้างขึ้นตามแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อบรรเทาความทุกข์ยากที่เกิดกับประชาชน ชาวนครนายก และจังหวัดใกล้เคียง ตัวเขื่อน ประกอบด้วยเขื่อนหลักและเขื่อนรองสร้างด้วยคอนกรีตบดอัด ปัจจุบันเป็นเขื่อนคอนกรีตบดอัดที่มีความยาว ที่สุดในโลก มีความยาวรวม 2,593 เมตร ความสูง (สูงสุด) 93 เมตร รับน้ำที่ไหลจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ผ่านน้ำตกเหวนรกลงสู่อ่างเก็บน้ำมีความจุ 224 ล้าน ลบม. ประโยชน์ของเขื่อนแห่งนี้คือทำให้ มีน้ำในการทำเกษตรกรรม การอุปโภคบริโภค แก้ปัญหาดินเปรี้ยว เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ปลา และบรรเทาอุทกภัย เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของนครนายก นักท่องเที่ยวสามารถชมอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้จากบริเวณสันเขื่อน จะเห็นทิวทัศน์ด้านหน้าเขื่อน และชมทิวทัศน์เมืองนครนายกด้านหลังเขื่อน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร 0 3738 4208-9
ใน อดีตชาวบ้านย่านคลอง 15 อำเภอองครักษ์ ประกอบอาชีพทำนาเป็นอาชีพหลัก และได้พัฒนาปรับเปลี่ยน ท้องทุ่งให้เป็นแปลงปลูกไม้ดอกไม้ประดับ และขยับขยาย พื้นที่ปลูกจนปัจจุบันพื้นที่สองริมฝั่งถนนคลอง 15 หนาแน่นด้วยพันธุ์ไม้ดอก ไม้ประดับนานาชนิด และสร้างอาชีพใหม่ให้กับชาวบ้านจนกลายเป็นอาชีพหลัก สร้างรายได้ที่น่าพอใจให้กับเกษตรกรคลอง 15 อากาศหนาวเย็น ไม้ดอกผลิดอก ไม้ใบผลิใบ สีสันละลานตา เบ่งบานตลอดเส้นทางที่ยาวกว่า 8 กิโลเมตร หมู่บ้านไม้ดอกฯเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร ที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวตาม โครงการ Unseen Thailand ในมุมมองใหม่วิถีชีวิต ประเพณีและวัฒนธรรม และเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม เส้นทางแห่งความสุข ของจังหวัดนครนายก ที่ทุกคนต้องแวะ ก่อนเดินทางกลับ หรือก่อนจะเดินทางไปเที่ยวชมแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ
ศูนย์ภูมิรักษ์ธรรมชาติ เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดนครนายก บรรจุด้วยความรู้ควบคู่ความสุขตาสุขใจ
ความเพลิดเพลินที่ได้มาเยือนที่สื่อความหมายผ่านนิทรรศการทั้งภายในและภายนอกอาคาร พร้อมๆกับการฝึกอบรม
ให้กับผู้ที่สนใจที่จะนำแนวคิดและทฤษฎีการพัฒนาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปประยุกต์ ใช้ในการทำงาน
ในชีวิตประจำวันโดยศูนย์ได้ทำการฝึกอบรมให้กับข้าราชการและประชาชนทั่วไป จัดวางภูมิทัศน์ภายนอก
ในลักษณะของจากน้ำหยดแรกที่ต้นน้ำ ไหลลงสู่ทะเล หรือ "จากฟ้า มาภูผา สู่มหานที" ผู้เข้าชมจะได้เห็นถึงการ
จัดการเรื่องของน้ำอย่างมีประสิทธิภาพทุกขั้นตอนตามแนวพระราชดำริ เมื่อมีการจัดการน้ำที่ดี การพัฒนาดินด้วย
วิธีธรรมชาติจึงได้ผลที่ดีตามมา เกิดความอุดมสมบูรณ์ ของระบบนิเวศและป่าไม้ จากนั้นจึงทำการสอนให้คนได้รู้จัก
ที่จะใช้ประโยชน์จากธรรมชาติ สร้างอาชีพสร้างความมั่นคงที่เกิดจากฐานการเรียนรู้การพึ่งตนเองอย่างเป็น ขั้นตอน ทุกกิจกรรมเน้นให้ก่อเกิดการเรียนรู้ที่สามารถปรับใช้ได้โดยง่าย ดึงดูดให้เกิด ความสนใจและสามารถพัฒนา
สู่มาตรฐานการผลิตที่สูงขึ้น ตลอดจนรู้จักรักษา ทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่อย่างจำกัด รวมทั้งรักษาสภาพแวดล้อม
ให้มีใช้อย่างยั่งยืนเพื่อชนรุ่นหลัง
ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ http://www.bhumirak.com
ความเพลิดเพลินที่ได้มาเยือนที่สื่อความหมายผ่านนิทรรศการทั้งภายในและภายนอกอาคาร พร้อมๆกับการฝึกอบรม
ให้กับผู้ที่สนใจที่จะนำแนวคิดและทฤษฎีการพัฒนาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไปประยุกต์ ใช้ในการทำงาน
ในชีวิตประจำวันโดยศูนย์ได้ทำการฝึกอบรมให้กับข้าราชการและประชาชนทั่วไป จัดวางภูมิทัศน์ภายนอก
ในลักษณะของจากน้ำหยดแรกที่ต้นน้ำ ไหลลงสู่ทะเล หรือ "จากฟ้า มาภูผา สู่มหานที" ผู้เข้าชมจะได้เห็นถึงการ
จัดการเรื่องของน้ำอย่างมีประสิทธิภาพทุกขั้นตอนตามแนวพระราชดำริ เมื่อมีการจัดการน้ำที่ดี การพัฒนาดินด้วย
วิธีธรรมชาติจึงได้ผลที่ดีตามมา เกิดความอุดมสมบูรณ์ ของระบบนิเวศและป่าไม้ จากนั้นจึงทำการสอนให้คนได้รู้จัก
ที่จะใช้ประโยชน์จากธรรมชาติ สร้างอาชีพสร้างความมั่นคงที่เกิดจากฐานการเรียนรู้การพึ่งตนเองอย่างเป็น ขั้นตอน ทุกกิจกรรมเน้นให้ก่อเกิดการเรียนรู้ที่สามารถปรับใช้ได้โดยง่าย ดึงดูดให้เกิด ความสนใจและสามารถพัฒนา
สู่มาตรฐานการผลิตที่สูงขึ้น ตลอดจนรู้จักรักษา ทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่อย่างจำกัด รวมทั้งรักษาสภาพแวดล้อม
ให้มีใช้อย่างยั่งยืนเพื่อชนรุ่นหลัง
ข้อมูลเพิ่มเติมสามารถดูได้ที่ http://www.bhumirak.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น